เมืองใหญ่ที่สุด มีประชากรราว 1.6 ล้านคน มีแม่น้ำสายสำคัญของยุโรปคือแม่น้ำดานูบไหลผ่าน เวียนนาจึงเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ ประกอบกับที่ตั้งที่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำคัญในระดับนานาชาติโดยเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO), Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติแห่งที่สามของโลก อีกด้วย ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นเวียนนาก็ไม่เป็นสองรองใคร เวียนนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งของยุโรป เพราะความโรแมนติกของดนตรีคลาสสิกและความเงียบสงบของเมือง ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ต้องเดินทางมาเยี่ยมชมเวียนนาสักครั้งในชีวิต | |||
พระราชวังเชินบรุนน์ (SchloßSchönbrunn) พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ออสเตรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียนนา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองชื่อ Schönbrunn เกิดจากพระจักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นบ่อน้ำบาดาลที่พุดขึ้นมาบริเวณนั้นเข้าในครั้งแรกที่เสด็จมาที่นี่ จึงทรงตั้งชื่อพระราชวังว่า “เชินบรุนน์” ซึ่งแปลว่าน้ำพุอันสวยงาม | |||
ในอดีตพระราชวังเชินบรุนน์เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 18 ถึง พ.ศ.2461 พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระประสงค์ของพระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ที่ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์แห่งกรุงปารีส โดยมี Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi เป็นผู้ออกแบบ และเริ่มก่อสร้างในปลายศตวรรษที่ 17 ภายในพระราชวังถูกออกแบบตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา มีห้องสำคัญๆ กว่า 20 ห้อง อาทิ ห้องทรงพระอักษรของจักรพรรดิ ห้องบรรทม ห้องฉลองพระองค์ ห้องรับรอง ห้องพระราชพิธี ห้องแกลเลอรี่ ห้องมิลเลี่ยน ไชนีสรูม และห้องนโปเลียนซึ่งเป็นที่ประทับของจักพรรดินโปเลียน ห้องต่างๆ นั้นใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก เช่น ภาพวาดขนาดใหญ่ติดผนังแสดงเหตุการณ์ในสมัยนั้นๆ
ถนนคาร์นท์เนอร์ (Kärntnerstraße) ถนนการค้าใจกลางเมืองที่เชื่อมระหว่างถนนวงแหวนริงสตราเซ่ (Ringstraße) กับจัตุรัสสเตฟาน ถนนสายนี้เป็นถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเวียนนา มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ตลอดสองข้างทางของถนน สินค้าก็มีมากมายให้เลือกซื้อ อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์ยอดนิยม เครื่องแก้ว คริสตัลเจียระไน ของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร ร้านไอศกรีม และร้านกาแฟแบบออริจินอลออสเตรียน พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg) พระราชวังฤดูหนาวฮอฟบวร์กที่แสนงดงาม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ยอดโดม สีเขียวอันสง่างาม แต่เดิมเป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1460 ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1754 - 1773 ได้ถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นราชสำนัก ท้องพระโรงประดับด้วยพระสาทิสลักษณ์ของบรรดาเจ้านายในราชสำนักฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องใช้ เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับของจักรพรรดิ มีทั้งเสื้อผ้า เพชรพลอยและทองคำล้ำค่า ช่วงเดือนกันยายน - มิถุนายน เปิดตั้งแต่ 09.00 - 17.30 น. ส่วนเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม เปิด 09.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 9.90 ยูโร เด็ก (6 - 18 ปี) 5.90 ยูโร (www.hofburg-wien.at/en) จัตุรัสอัลแบร์ตินา(Albertinaplatz) จัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของแกเลอรีใหญ่กลางเมือง ที่เก็บสะสมภาพเขียน กราฟิกผลงานของศิลปินดังไว้มากมายตั้งแต่ยุคเรอเนสซองส์ เช่น ผลงานของดาร์วินชี เรื่อยมาจนถึงยุคร่วมสมัย เช่น ผลงานป๊อปอาร์ตของแอนดี้ วอร์ฮอลล์ ซึ่งว่ากันว่ามีผลงานถูกเก็บรักษาไว้มากที่สุดในโลกมากกว่า 1 ล้านชิ้น แต่เดิมผลงานศิลปะบางชิ้นจะถูกนำออกมาจัดแสดงเพียงบางส่วนและเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น เพราะอาจเสียหายได้จากการถูกแสงและอากาศ แต่ขณะนี้ทางอัลแบร์ตินาได้ทำสัญญาเช่าภาพจำนวนหลายร้อยภาพจากตระกูล Batliner และ Forberg อย่างถาวร ทำให้สามารถจัดนิทรรศการศิลปะถาวรที่มีชื่อว่า "From Monet to Picasso" ให้ชมตลอดปีงานนี้ได้รวบรวมผลงานดังๆ ตั้งแต่สมัยอิมเพรสชั่นนิสม์ฝีมือของ โคลด โมเนต์ จนถึงยุคศิลปะแนวลูกบาศก์ (cubism) ของปาโบล ปิกัสโซ ศิลปินเอกชาวสเปน |
Salzburg
วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554
เวียนนา
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
Danube River
แม่น้ำดานูบ (Danube River) เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในสหภาพยุโรป และยาวเป็นอันดับสองของทวีปยุโรป (รองจากแม่น้ำโวลก้า) มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำ (อังกฤษ:Black Forest, เยอรมัน: Schwarzwald) ในประเทศเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำเล็กๆ สองสาย คือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen
แม่น้ำดานูบไหลจากป่าดำไปทางทิศตะวันออกผ่านเมืองหลวงและเมืองสำคัญๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก ก่อนที่จะไหลผ่านดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำดานูบ (Danube Delta) และแยกลงสู่ทะเลดำที่ประเทศโรมาเนียและยูเครน มีความยาวประมาณ 2,845 กม. (ความยาวจากแหล่งต้นน้ำ คือ แม่น้ำ Berg ถึงทะเลดำ 2,888 กม.) ความยาวที่เรือสามารถเดินได้ 2,415 กม.
แม่น้ำดานูบเป็นทางน้ำที่สำคัญต่อนานาประเทศมายาวนานหลายศตวรรษจวบจนกระทั่งปัจจุบัน ในประวัติศาสตร์เคยเป็นปราการที่สำคัญของอาณาจักรโรมัน แม่น้ำดานูบไหลผ่านและเป็นเส้นแบ่งอาณาเขตของ 10 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย สโลวาเกีย ฮังการี โครเอเชีย เซอร์เบีย บัลแกเรีย โรมาเนีย มอลโดวา ยูเครน และยังเป็นที่ลุ่มที่รองรับน้ำจากหลายๆ ประเทศ ได้แก่ อิตาลี โปแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สโลวีเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร สาธารณรัฐมาซิโดเนีย มอลโดวา และแอลเบเนีย
แม่น้ำดานูบไหลจากป่าดำไปทางทิศตะวันออกผ่านเมืองหลวงและเมืองสำคัญๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก ก่อนที่จะไหลผ่านดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำดานูบ (Danube Delta) และแยกลงสู่ทะเลดำที่ประเทศโรมาเนียและยูเครน มีความยาวประมาณ 2,845 กม. (ความยาวจากแหล่งต้นน้ำ คือ แม่น้ำ Berg ถึงทะเลดำ 2,888 กม.) ความยาวที่เรือสามารถเดินได้ 2,415 กม.
แม่น้ำดานูบเป็นทางน้ำที่สำคัญต่อนานาประเทศมายาวนานหลายศตวรรษจวบจนกระทั่งปัจจุบัน ในประวัติศาสตร์เคยเป็นปราการที่สำคัญของอาณาจักรโรมัน แม่น้ำดานูบไหลผ่านและเป็นเส้นแบ่งอาณาเขตของ 10 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย สโลวาเกีย ฮังการี โครเอเชีย เซอร์เบีย บัลแกเรีย โรมาเนีย มอลโดวา ยูเครน และยังเป็นที่ลุ่มที่รองรับน้ำจากหลายๆ ประเทศ ได้แก่ อิตาลี โปแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สโลวีเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร สาธารณรัฐมาซิโดเนีย มอลโดวา และแอลเบเนีย
Salzburg
เมืองซาลส์บวร์ก ประเทศออสเตรีย
ซาลสบวร์กมีจุดเด่นคือน้ำในแม่น้ำซาลจะมีสีออกเขียวมรกตสวยงามมาก สาเหตุเพราะมีเกลืออยู่มาก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีเหลือปะปนอยู่ในดินมากกว่าที่อื่นจึงได้ชื่อว่าซาลสบวร์ก แปลว่า ปราสาทเกลือ เมืองนี้ตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างอินส์บรูคและเวียนนาจึงมีลักษณะที่กึ่งภูเขากึ่งที่ราบ ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองจะเป็นภูเขา ซึ่งมียอดเขาสูงให้นักท่องเที่ยวนั่งรถกระเช้าขึ้นไปสัมผัสกับหิมะ ในขณะที่ทิศตะวันออกจะเป็นที่ราเป็นที่ตั้งของตัวเมือง
ใจกลางเมืองซาลสบวร์กจะมีถนนเล็ก ๆ ที่คึกคักมากเพราะเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ถนนสายนี้สามารถพบได้เมื่อเดินทางจากสถานีรถไฟมายังแม่น้ำซาล จากนั้นเดินข้ามสะพานมาอีกฝั่งหนึ่งก็จะเห็นนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันบริเวณนี้มากมาย บนถนนสายเล็ก ๆ นี้มีทั้งห้องหุ่นขี้ผึ้ง พิพิธภัณฑ์ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายหนังสือ ร้านอาหาร รวมไปถึงบ้านเกิดของโมสาร์ทซึ่งเป็นศิลปินเพลงคลาสสิคที่ดังก้องโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าของที่ระลึกของซาลส์บวร์กจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโมสาร์ท เริ่มตั้งแต่ช็อคโกแล็คที่มีกล่องเป็นรูปโมสาร์ทไปจนถึงสมุดจดโน้ตเพลงของโมสาร์ท
ซาลส์บวร์กยังเป็นเมืองที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music อันเป็นภาพยนตร์เพลงชื่อดังของโลก ใครที่เคยได้ยินเพลง โด่ อะเดียร์ อะฟีเมลเดียร์ แล้วเห็นฉากนางเอกและบรรดาเด็ก ๆ วิ่งไล่กันบนภูเขาที่สวยงามมาก ๆ นั่นก็คือที่ซาลส์บวร์กนั่นเอง ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แปลงมาเป็นของที่ระลึกของซาล์สบวร์กด้วยเช่นกัน
ซาลสบวร์กมีจุดเด่นคือน้ำในแม่น้ำซาลจะมีสีออกเขียวมรกตสวยงามมาก สาเหตุเพราะมีเกลืออยู่มาก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีเหลือปะปนอยู่ในดินมากกว่าที่อื่นจึงได้ชื่อว่าซาลสบวร์ก แปลว่า ปราสาทเกลือ เมืองนี้ตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างอินส์บรูคและเวียนนาจึงมีลักษณะที่กึ่งภูเขากึ่งที่ราบ ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองจะเป็นภูเขา ซึ่งมียอดเขาสูงให้นักท่องเที่ยวนั่งรถกระเช้าขึ้นไปสัมผัสกับหิมะ ในขณะที่ทิศตะวันออกจะเป็นที่ราเป็นที่ตั้งของตัวเมือง
ใจกลางเมืองซาลสบวร์กจะมีถนนเล็ก ๆ ที่คึกคักมากเพราะเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ถนนสายนี้สามารถพบได้เมื่อเดินทางจากสถานีรถไฟมายังแม่น้ำซาล จากนั้นเดินข้ามสะพานมาอีกฝั่งหนึ่งก็จะเห็นนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันบริเวณนี้มากมาย บนถนนสายเล็ก ๆ นี้มีทั้งห้องหุ่นขี้ผึ้ง พิพิธภัณฑ์ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายหนังสือ ร้านอาหาร รวมไปถึงบ้านเกิดของโมสาร์ทซึ่งเป็นศิลปินเพลงคลาสสิคที่ดังก้องโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าของที่ระลึกของซาลส์บวร์กจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโมสาร์ท เริ่มตั้งแต่ช็อคโกแล็คที่มีกล่องเป็นรูปโมสาร์ทไปจนถึงสมุดจดโน้ตเพลงของโมสาร์ท
ซาลส์บวร์กยังเป็นเมืองที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music อันเป็นภาพยนตร์เพลงชื่อดังของโลก ใครที่เคยได้ยินเพลง โด่ อะเดียร์ อะฟีเมลเดียร์ แล้วเห็นฉากนางเอกและบรรดาเด็ก ๆ วิ่งไล่กันบนภูเขาที่สวยงามมาก ๆ นั่นก็คือที่ซาลส์บวร์กนั่นเอง ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แปลงมาเป็นของที่ระลึกของซาล์สบวร์กด้วยเช่นกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)