วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

เวียนนา


เวียนนา (Vienna ในภาษาอังกฤษ หรือ Wien ในภาษาเยอรมัน) เป็นเมืองหลวงประเทศออสเตรีย เป็น
เมืองใหญ่ที่สุด มีประชากรราว 1.6 ล้านคน มีแม่น้ำสายสำคัญของยุโรปคือแม่น้ำดานูบไหลผ่าน เวียนนาจึงเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ ประกอบกับที่ตั้งที่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำคัญในระดับนานาชาติโดยเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO), Organization of
Petroleum Exporting Countries (OPEC) และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติแห่งที่สามของโลก
อีกด้วย ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นเวียนนาก็ไม่เป็นสองรองใคร เวียนนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งของยุโรป เพราะความโรแมนติกของดนตรีคลาสสิกและความเงียบสงบของเมือง ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ
นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ต้องเดินทางมาเยี่ยมชมเวียนนาสักครั้งในชีวิต

พระราชวังเชินบรุนน์ (SchloßSchönbrunn) พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ออสเตรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียนนา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองชื่อ Schönbrunn เกิดจากพระจักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นบ่อน้ำบาดาลที่พุดขึ้นมาบริเวณนั้นเข้าในครั้งแรกที่เสด็จมาที่นี่ จึงทรงตั้งชื่อพระราชวังว่า เชินบรุนน์ซึ่งแปลว่าน้ำพุอันสวยงาม
ในอดีตพระราชวังเชินบรุนน์เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 18 ถึง พ.ศ.2461 พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระประสงค์ของพระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ที่ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์แห่งกรุงปารีส โดยมี Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi เป็นผู้ออกแบบ และเริ่มก่อสร้างในปลายศตวรรษที่ 17 ภายในพระราชวังถูกออกแบบตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา มีห้องสำคัญๆ กว่า 20 ห้อง อาทิ ห้องทรงพระอักษรของจักรพรรดิ ห้องบรรทม ห้องฉลองพระองค์ ห้องรับรอง ห้องพระราชพิธี ห้องแกลเลอรี่ ห้องมิลเลี่ยน ไชนีสรูม และห้องนโปเลียนซึ่งเป็นที่ประทับของจักพรรดินโปเลียน ห้องต่างๆ นั้นใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก เช่น ภาพวาดขนาดใหญ่ติดผนังแสดงเหตุการณ์ในสมัยนั้นๆ

พระราชวังเชินบรุนน์นี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศสกับพระราชโอรสของพระองค์ นอกจากนี้พระนางมารี อองตัวเนต พระราชินีแห่งฝรั่งเศส ก็เคยทรงใช้พระชนม์ชีพในช่วงที่ยังทรงพระเยาว์ที่พระราชวังแห่งนี้อีกด้วย บริเวณรอบๆ อาคารพระราชวังเป็นอุทยานสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่จัดแต่งไว้อย่างร่มรื่นงดงาม บริเวณอุทยานนี้เคยเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งแรกของโลก เมื่อพ.ศ. 2295 ปัจจุบันองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว ภายในอุทยานซึ่งอยู่ด้านหลังของพระราชวังมีประตูสีเหลืองอ่อนขนาดมหึมาเรียกว่า Gloriette ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาเหมือนกับที่พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส
พระราชวังเชินบรุนน์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ 08.30 - 18.00 น. ในช่วงฤดูร้อน (ส่วนช่วงฤดูอื่นจะปิดเร็วขึ้นประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง) ค่าเข้าชมและทัวร์มีหลายประเภท อาทิ Imperial Tour ผู้ใหญ่ 9.50 ยูโร เด็ก 6.50 ยูโร Grand Tour ผู้ใหญ่ 12.90 ยูโร เด็ก 8.90 ยูโร (www.schoenbrunn.at/en)

จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz) ถือเป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเวียนนา เป็นที่ตั้งของมหาวิหาร
Stephansdom (St. Stephen's Cathedral) อันศักดิ์สิทธิ์ สเตฟานสดอมเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1137 เพื่ออุทิศแด่นักบุญสเตเฟน โดยแรกเริ่มก่อสร้างในสไตล์โรมาเนสก์ แต่ต่อมาในปีค.ศ. 1258 ได้เกิดไฟไหม้ขึ้น จึงสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในสไตล์โกธิก แต่ยังคงมีส่วนหลงเหลือของโบสถ์เดิมอยู่บ้าง คือส่วนทางเข้าโบสถ์ด้านตะวันตก และหอคอยขนาบข้าง “ TowersoftheHeathens”
(Heidenturme) โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานศพของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของออสเตรีย อาทิ
โมซาร์ต เป็นต้น ภายในโบสถ์มี pulpit หนึ่งซึ่งถูกแกะสลักอย่างอลังการ ตรงส่วน balustrade แกะสลักเป็นรูปนักบุญทั้งสี่ ได้แก่ Augustine, Ambrose, Gregory และ Jerome ดูพิสดารโดดเด่นจาก pulpit อื่นของโบสถ์เสียจริง

ถนนคาร์นท์เนอร์ (Kärntnerstraße) ถนนการค้าใจกลางเมืองที่เชื่อมระหว่างถนนวงแหวนริงสตราเซ่ (Ringstraße) กับจัตุรัสสเตฟาน ถนนสายนี้เป็นถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเวียนนา มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ตลอดสองข้างทางของถนน สินค้าก็มีมากมายให้เลือกซื้อ อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์ยอดนิยม เครื่องแก้ว
คริสตัลเจียระไน ของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร ร้านไอศกรีม และร้านกาแฟแบบออริจินอลออสเตรียน
พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg) พระราชวังฤดูหนาวฮอฟบวร์กที่แสนงดงาม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ยอดโดม
สีเขียวอันสง่างาม แต่เดิมเป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1460 ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1754 - 1773 ได้ถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นราชสำนัก ท้องพระโรงประดับด้วยพระสาทิสลักษณ์ของบรรดาเจ้านายในราชสำนักฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องใช้ เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับของจักรพรรดิ มีทั้งเสื้อผ้า เพชรพลอยและทองคำล้ำค่า ช่วงเดือนกันยายน - มิถุนายน เปิดตั้งแต่ 09.00 - 17.30 น. ส่วนเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม เปิด 09.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 9.90 ยูโร
เด็ก (6 - 18 ปี) 5.90 ยูโร
(www.hofburg-wien.at/en)
จัตุรัสอัลแบร์ตินา(Albertinaplatz) จัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของแกเลอรีใหญ่กลางเมือง ที่เก็บสะสมภาพเขียน
กราฟิกผลงานของศิลปินดังไว้มากมายตั้งแต่ยุคเรอเนสซองส์ เช่น ผลงานของดาร์วินชี เรื่อยมาจนถึงยุคร่วมสมัย เช่น ผลงานป๊อปอาร์ตของแอนดี้ วอร์ฮอลล์ ซึ่งว่ากันว่ามีผลงานถูกเก็บรักษาไว้มากที่สุดในโลกมากกว่า 1 ล้านชิ้น แต่เดิมผลงานศิลปะบางชิ้นจะถูกนำออกมาจัดแสดงเพียงบางส่วนและเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น เพราะอาจเสียหายได้จากการถูกแสงและอากาศ แต่ขณะนี้ทางอัลแบร์ตินาได้ทำสัญญาเช่าภาพจำนวนหลายร้อยภาพจากตระกูล Batliner และ Forberg อย่างถาวร ทำให้สามารถจัดนิทรรศการศิลปะถาวรที่มีชื่อว่า
"From Monet to Picasso" ให้ชมตลอดปีงานนี้ได้รวบรวมผลงานดังๆ ตั้งแต่สมัยอิมเพรสชั่นนิสม์ฝีมือของ
โคลด โมเนต์ จนถึงยุคศิลปะแนวลูกบาศก์ (cubism) ของปาโบล ปิกัสโซ ศิลปินเอกชาวสเปน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น